“แชร์ประสบการณ์สวัสดิการช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ”
วันนี้ผมพึ่งได้รับเช็คจากการช่วยเหลือของรัฐบาล เป็นครั้งที่สอง
ซึ่งครั้งนี้รัฐบาลจ่ายให้จำนวน $600 ต่อคน (18,000 บาท)
ผมกับแบรนดอนได้มาคนละใบ = $1200 (36,000 บาท)
ถ้ารวมครั้งแรกที่รัฐบาลเคยจ่ายให้ คนละ $1200 ผมได้มาสองคนเท่ากับ $2400 (72,000 บาท) และหลังจากประธานาธิบดีไบเดนได้รับตำแหน่งแล้ว มีการประกาศแล้วว่าอาจจะจ่ายให้อีกคนละ $1400 (42,000)
ถ้ารวมทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐฯจ่ายให้ต่อคน 3 ครั้ง = $3200 หรือ 96,000 บาทโดยที่ไม่ต้องลงทะเบียน ไม่ต้องยื่นอะไรทั้งนั้น รวยจนจ่ายเท่ากันหมด ได้รับเป็นเช็คที่สามารถขึ้นเงินได้ทันที และรัฐบาลจ่ายให้กับแทบทุกคนที่มีเลขเสียภาษี ซึ่งประชากรเกือบทุกคนจะมีเลขเสียภาษีติดตัวอยู่แล้ว
รัฐบาลที่นี่เค้ามองว่าการที่ได้ช่วยเหลือประชาชน ก็ยังได้ช่วยเหลือเศรษฐกิจในประเทศด้วย เพราะเงินที่ประชาชนนำไปใช้ ก็ต้องมีการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มวนกลับมาให้รัฐบาลได้อีกอยู่ดี
ทั้งๆที่ประชากรอเมริกันมีมากถึง 328 ล้านคน รัฐบาลจ่ายให้แทบทุกคนโดยไม่มีข้อแม้ ไม่ต้องจ่ายคนละครึ่ง ไม่ต้องแย่งกันลงทะเบียนแต่เช้า
นี่แหละครับวิธีที่จะช่วยเหลือพลเมืองของชาติได้อย่างแท้จริง แถมยังพ่วงด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศได้อย่างเต็มที่มากๆ
มองกลับไปที่บ้านเรา ผมสงสารหลายๆคนที่ได้รับสวัสดิการเช่นนั้น ทั้งที่ประชากรก็อยู่ในเกณฑ์ที่รัฐบาลสามารถจ่ายให้ได้แทบทุกคน
ที่มา
สลิ่มที่ออกมาแก้ตัวว่า คน US สมควรได้เพราะเสียภาษีแพงนี่ ส่วนไทยคนไม่เสียภาษีจึงไม่ควรได้ นี่โชว์โง่สมองกลวงสุดๆ คงไม่รู้ว่าเฉลี่ยแล้วคนไทยเสียภาษีสารพัดมากกว่าคน US แต่สวัสดิการไม่มีเลย ภาษีเงินได้บุคคลของ US เก็บแพงจริง แต่เค้าไม่มีภาษียิบย่อยเก็บทุกคนแบบไทย อย่างภาษีสรรพมสามิตรที่เก็บจากสินค้าฟุ่มเฟือย และภาษี VAT 7% ที่เก็บทุกอย่างแม้กระทั่งอาหาร แล้วสรรพากรประเทศนี้ยังคิด VAT ผิด + 7% จากราคาสินค้าที่รวมกำไรแล้ว แทนที่จะคิด 7% ของทุนสินค้า มีคนแย้งสรรพากรมา 30 ปีไม่คิดจะแก้ เพราะถ้าแก้กลัวตัวเลขภาษีหายเพียบ เนื่องจากพวกนายทุนที่บวกกำไรสินค้าไปเยอะทำให้ได้ VAT เพิ่ม ถ้าคิดต้นทุนตามจริง VAT จะลดราคาสินค้าจะถูกกว่านี้อีก ทุกวันนีเราจ่าย VAT จากราคาที่รวมกำไรของผู้ขายสินค้า มันถูกต้องที่ไหน แปลว่าสินค้าค้าไหนกำไรสูงนี่เราไม่ได้จ่ายภาษีบริโภคแล้ว แต่จ่ายภาษีกำไรของพวกนายทุน ผิดเพี้ยนมากๆ ไม่แปลกที่ประเทศไทย ระบบภาษีแก้ความเหลือมล้ำไม่ได้เลย
สลิ่มไม่เคยมีความรู้เรื่องภาษียังมโนคิดว่าตัวเอวจ่ายภาษีมากอยู่ ซึ่งจริงๆ เป็นแค่เศษเงิน ถ้ายังจ่ายภาษีปีไม่ถึงล้าน ไม่ได้ทำธุรกิจค้าขาย ที่ต้องจ่าย VAT ทุกวันอย่าพึ่งมโนว่าตัวเองเสียภาษีมาก เพราะงบประมาณประเทศไทยส่วนใหญ่มาจากภาษีทางอ้อม ไม่ใช่ทางตรง เพราะมันเก็บจากคนรวยได้น้อยมาก ซึ่งสลิ่มก็ไม่รู้เรื่องนี้ แล้วยังเสือกคิดว่าคนอื่นไม่จ่ายภาษีนี่ต้องเหี้ยไร้ความเป็นมนุษย์ขนาดไหนถึงสำรากด่าคนอื่นว่าไม่เสียภาษีเพื่อแก้ตัวแทนรัฐที่ล้มเหลวไม่มีสวัสดิการให้ประชาชน
ขอสมเพชจนต้องสาปแช่งสลิ่มทุกตัวให้ชีวิตมีแต่ความวิบัติฉิบหายไปทั้งชีวิต เพราะออกมาปกป้องระบบราชการ และแก้ตัวแทนรัฐบาลที่ไม่มีสวัสดิการใดให้ประชาชนในประเทศ
ทุกวันนี้ประเทศไทยติดอันดับ Top 3 ประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดโลก เรียกว่ารัฐบาล ข้าราชการ และสลิ่มโง่ๆ พวกนี้มีสามัญสำนึกควรจะรู้จักมียางอายได้แล้วว่า ประเทศไทยแม่งมีระบบสวัสดิการ และระบบภาษีที่เฮงซวยเหมือนประเทศในแอฟริกาที่ไม่เจริญ เพราะอะไร แต่คนพวกนี้ก็หาได้สำเนียกไม่ ยังคงปกป้องอุ้มชูระบบราชการ ที่พิกลพิการ ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน และไม่พัฒนาประเทศต่อไป รวมถึงยังไม่คิดจะปรับปรุงสวัสดิการให้ประชาชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม แต่กลับขยายความเหลื่อมล้ำให้มากขึ้นไปด้วยการให้สวัสดิการแบบชิงโชค
ซึ่งข้ออ้างที่พวกสลิ่มออกมาปกป้องรัฐที่ล้มเหลวในเรื่องระบบสวัสดิการ นี่ก็โชว์โง่อย่างทุเรศมากที่สุดคือ
1. อ้างว่าประเทศไทยเสียภาษีน้อย คนเลี่ยงภาษีเยอะ ไม่ควรมีสวัสดิการ แต่เดียวกัน แล้วครอบครัวปรสิตที่ไม่เคยเสียภาษี และได้สวัสดิการทุกอย่างจนเรียกว่าเอางบประมาณประเทศไปประเคนเพิ่มให้ทุกปีอย่างนี้คืออะไร ลองตัดงบประมาณตรงนี้มาตั้งเป็นสวัสดิการประชาชนน่าจะช่วยคนได้เป็นล้านๆ ไม่ใช่ครอบครัวเดียว ไม่ใช่เพียงแค่นั้นประเทศไทยยังมีพวกเจ้าพ่อนายทุนที่ทำธุรกิจสีเทา รวมถึงมูลนิธิ กับวัดที่รับเงินบริจาค พวกนี้ไม่เคยเสียภาษี แถมรัฐลดหย่อนภาษีพวกเศรษฐีที่บริจาคเงินให้พวกนี้อีก ทำไมประเทศนี้ไม่เอาธุรกิจสีเทาขึ้นมาให้ถูกกฏหมายแล้วเก็บภาษี ทำไมไม่เก็บภาษีจากพวกมูลนิธิ และวัดที่ได้เงินบริจาคเยอะ และยกเลิกลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาคได้แล้ว เพราะระบบแบบนี้มันคือวัฏจักรให้เกิดการฟอกเงิน และให้คนรวยสร้างมูลนิธิ หรือบริจาคเงินวัดเลี่ยงภาษีชัดๆ แล้วมาบ่นว่าประเทศไทยได้ภาษีน้อยได้ไง ก็เพราะแม่งไม่ยอมไปเก็บจากพวกที่มีรายได้สูง คนรวยจริงๆ ที่ทำธุรกิจสีเทา และพวกเศรษฐีที่สร้างภาพ
2. อ้างว่าคนจน พ่อค้าแม่ค้า ไม่เคยเสียภาษี ข้ออ้างปัญญาอ่อนของสลิ่มโชว์โง่ ที่ไม่รู้ว่าประเทศไทยมีระบบภาษีทางตรง และทางอ้อม ภาษีทางอ้อมซึ่งเป็น 70% ของงบประมาณประเทศนี่ เก็บจากคนทุกคนที่ซื้อสินค้า สลิ่มไม่เคยรู้ว่า ทุกวันนี้สินค้าที่ขายมีอะไรบวกมาเป็นราคาบ้าง สลิ่มคิดว่าราคาสินค้าที่ซื้อมีแค่ต้นทุน กำไร ของผู้ขายแค่นั้น ทั้งที่จริงๆ ราคาสินค้าจะมี ภาษีสรรพสามิตร ภาษีท้องถิ่น หรือภาษีการค้าต่างๆ ภาษี VAT 7% ซึ่งคนไทยทุกคนที่ซื้ออะไรก็จะต้องจ่ายภาษี 3 ตัวนี้ในสินค้าทั้งสิ้น ตั้งแต่ซื้ออาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค ค่าน้ำค่าไฟ จนถึงค่าน้ำมันรถ แล้วสลิ่มมามโนได้ไงว่า คนจน พ่อค้า แม่ค้าไม่เสียภาษี เคยมีงานวิจัยที่วิเคราะห์ว่าคนไทยเสียภาษีให้รัฐเฉลี่ยต่อคนแล้วโดนนับรวมภาษีเงินได้ปกติ และภาษีทางอ้อมจากสินค้าต่างๆ แล้วจะตกอยู่คนละ 36-40% ของรายได้เลยทีเดียว ดังนั้นใครบอกว่าประเทศไทย คนจนไม่เสียภาษี คนไทยเสียภาษีน้อยนี่คือ ตัวเหี้ยที่ไม่มีสมอง เพราะในต่างประเทศอย่างประเทศยุโรป ที่ว่าสวัสดิการดี ภาษีแพง ยังเสียงภาษีเฉลี่ยต่อคนแค่ 19-25% ของรายได้เท่านั้น ส่วนต่าง 20% ที่คนไทยเสียเพิ่มขึ้นมันหายไปไหน ทำไมประเทศไทยไม่มีสวัสดิการเรียนฟรี ตกงานได้เงินชดเชยทุกเดือน หรือประกันสุขภาพเหมือนประเทศพวกนั้น
แค่ 2 ข้อนี้น่าจะรู้แล้วประเทศนี้มีปัญหาตรงไหน ทำไมถึงไม่มีสวัสดิการให้ประชาชน ข้ออ้างเรื่องเก็บภาษีได้น้อย คนจนไม่เสียภาษี นี่ฟังไม่ขึ้น เพราะงบประมาณของรัฐต่อปีที่นำไปใช้ เห็นชัดว่ารัฐบาลไม่ได้เห็นหัวประชาชน และไม่เคยลงทุนในเรื่องสวัสดิการให้ประชาชน ขนาดเกิดวิกฤตโควิดระบาดรัฐบาลก็ไม่ช่วยเหลืออะไรเลย แล้วสลิ่มปัญญาอ่อนก็ยังเสือกจะเลียคนพวกนี้ และอวยครอบครัวปรสิตที่ไม่เคยเสียภาษีแต่เสือกได้สวัสดิการทุกอย่าง ผมถึงบอกว่าสลิ่มมันไร้ความเป็นคน ถ้าไม่โง่ ไม่เหี้ย ไม่เลวระยำนี่เป็นไม่ได้หรอก