บริษัทเหมืองทองอัครา เพิ่งจะได้อาชญาบัตรพิเศษให้ขยายพื้นที่สัมปทานเหมืองแร่ทองคำออกไปอีก 2 แสนกว่าไร่ ซึ่งมีคนบอกว่า การจะได้มาซึ่งอาชญาบัตรลักษณะนี้เป็นไปได้ยากมาก

สันนิษฐานว่า นี่คือการจ่ายค่าโง่ของรัฐบาลประยุทธ์ ที่ไปใช้ ม.44 ปิดเหมืองเขาก่อนหน้านี้

และย้อนแย้งกับข้ออ้างในการใช้ ม.44 ปิดเหมืองทองอัคราของประยุทธ์เอง

เพราะประยุทธ์บอกว่า ที่ใช้คำสั่งปิดเพราะเหมืองทองมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และ เป็นอันตรายกับสุขภาพของประชาชนจึงปิด

คำถามคือ ถ้าปิดเพราะเหมืองเป็นอันตราย แล้วทำไมตอนนี้ถึงให้อาชญาบัตรเปิดเหมืองใหม่อีกตั้ง 2 แสนกว่าไร่


บริษัทคิงส์เกต เผยแพร่ประกาศของบริษัทเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 ว่า รัฐบาลไทยยินยอมให้นำสินแร่ทองคำจำนวน 4,750 ออนซ์ และ สินแร่เงินจำนวน 34,800 ออนซ์ มูลค่า 14 ล้านเหรียญ ก่อนคิดค่าภาคหลวง ให้กับคิงส์เกต ซึ่งคิงส์เกตบอกว่า เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเขา

งานนี้ชาวบ้านเราต้องจับตาดูดีๆว่าประยุทธ์จะเอาอะไรไปประเคนให้กับเขาอีกเพื่อแก้ค่าโง่ด้วยภาษีประชาชน นอกจากค่าใช้จ่ายสู้คดีที่จ่ายไปแล้ว 300 กว่าล้าน




กองเชียร์​ประยุทธ์​บอกว่า​ประยุทธ์​ใช้ม.44ปิดเหมืองทองเพราะรักสิ่งแวดล้อม​เป็นห่วงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง​ ตอนนี้ประยุทธ์​เริ่มให้บริษัทเหมืองทอง​ เอาทองกับเงินที่ค้างในแทงค์เก็บออกมาถลุงขาย​ และมีแนวโน้มว่าเหมืองจะกลับมาดำเนินการอีก​ ทีนี้กองเชียร์​ประยุทธ์​จะหาเหตุ​ผลอะไรมาอธิบายแทนประยุทธ์​อีก

ตอนปิดอ้างว่าปิดเพราะสิ่งแวดล้อม​ อ้างผลกระทบกับประชาชน​ แล้วถ้ากลับมาเปิด​ ผลกระทบที่เคยอ้างเอามาปิด​ มันหายไปไหน

อีกอย่างอาชญาบัตรพิเศษ​ในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์​พิษณุโลก​ ต่อเขตเหมืองเก่าอีก​ 4​แสนไร่​ ที่ยื่นขอไว้​ตั้งแต่ปี​2546 ไม่เคยมีใคร​ ไม่มีรัฐบาลไหนหยิบยกขึ้นมาพิจารณา​ดำเนินการมาก่อน​

เวลาผ่านไป​17ปี​และรัฐบาลประยุทธ์​โดนฟ้องหลังไปใช้​ม.44 ปิดเหมืองเขา​และมีทีท่าว่าจะแพ้​ เรื่องที่เก็บไว้ในลิ้นชักมา​16​ปีก็ถูกรื้อมาเริ่มกระบวนการ มันแปลกจริงๆ​

หรือค่าโง่ของประยุทธ์​ ต้องเอาสมบัติชาติไปจ่าย