รังสิมันต์ โรม เปิดเผยเอกสารหมาย จ.14 ซึ่งเป็นเอกสารฝ่ายรัฐที่เผลอแนบไปในศาล แล้วจะพบว่านี่คือยุทธวิธีที่เอาไว้ใช้ในการหยุดฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เป็นไงไปดู !!!
#ทำไมรัฐอ้างเด็กถูกปลุกปั่น ??
เปิดโปงเอกสารคำสั่งปราบม็อบ ระบุชัด รัฐบาลใช้แนวทางการยัดคดี ควบคู่ไปกับการใช้ปฏิบัติการข่าวสารหรือ ไอโอ เพื่อด้อยค่านักศึกษา ทำให้คนไทยเห็นว่า การชุมนุมของนักศึกษาไม่ใช่การเคลื่อนไหวด้วยพลังบริสุทธิ์ แต่มีผู้ปลุกปั่นยุยงให้เด็กมาชุมนุม คล้ายเด็กคิดไม่เป็นถูกกลุ่มล้มเจ้าหลอกให้ออกมาสร้างความวุ่นวายสร้างความแตกแยกให้บ้านเมือง อย่างที่รัฐบาลพยายามใช้มุกนี้เสมอมา เช่น คำพูดของประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ระบุว่า
“เด็กเหล่านี้อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกชักชวน ถูกปลุกมาโดยฟังความข้างเดียว ขอให้นักศึกษาที่ชุมนุมเวลานี้ฟังข้อมูลรัฐบาล เลือกฟังว่าจะเชื่อทางไหน เพราะไม่ต้องการให้ไปทางใดทางหนึ่ง เว้นแต่มีบางฝ่ายต้องการให้ไปทางใดทางหนึ่ง”
#แผนยัดคดี
สำหรับแผนยัดคดีของรัฐบาลนั้น เราคงได้เห็นกันมาแล้วในช่วงนี้คือ การสั่งระดมจับแกนนำม็อบ โดยแจ้งข้อหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อให้ในทางคดีมันซับซ้อน นำไปสู่การไม่ให้ประกันตัว รวมถึงการจับในวันศุกร์เพื่อหวังจับแกนนำม็อบยัดนอนคุกช่วงเสาร์-อาทิตย์ โดยในเอกสารระบุว่า
“ฝ่ายรัฐจะแจ้งความ และแจ้งความซ้ำไปเรื่อยๆ เมื่อมีการออกมาเคลื่อนไหวอีก สร้างแรงกดดันให้แกนนำ ทำให้ความฮึกเหิมในการปราศัยลดลงและลดจำนวนการชุมนุมลง อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลจับแกนนำยัดคุก สิ่งที่จะตามมาคือ แรงกดดันจากต่างประเทศ นักวิชาการและกลุ่มสิทธิมนุษยชนไทย ซึ่งจะส่งผลเสียกับรัฐอย่างมาก”
#เรื่องเงียบ...จับต่อ
หนึ่งในยุทธศาสตร์ที่ระบุไว้ในเอกสารกล่าวว่า “การจับแกนนำม็อบนั้นต้องดึงระยะเวลาออกไป เพื่อดึงความสนใจของสังคมให้ไปสนใจข่าวอื่นแทนก่อน แล้วจึงค่อยกลับมาแจ้งความตามจับดำเนินคดีต่อไป ดังนั้นรัฐต้องหาจังหวะในการดำเนินคดี เพื่อไม่ให้ได้รับความสนใจมากเกินไปจนสุ่มเสี่ยงต่อการถูกต่อต้านจากสังคม”
