หมอ ชี้ ผู้ชายรอบเอวเกิน 36 นิ้ว ผู้หญิงเกิน 32 นิ้ว พ่วงดัชนีมวลกายเกิน 18.5-24.9 เข้าข่าย “โรคอ้วนลงพุง” เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กลุ่มโรคหลอดเลือดหัวใจเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยและของโลก พบว่า คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเฉลี่ยชั่วโมงละ 2 คน โรคหัวใจและหลอดเลือดเกิดจากภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ซึ่งกระบวนการนี้จะเริ่มต้นและค่อยๆ เสื่อมจนทำให้เกิดอาการในระยะต่อมา หากพบว่าเป็นโรคดังกล่าวแล้วผู้ป่วยจะต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ตลอดชีวิต สาเหตุที่สำคัญของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด คือ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย และภาวะน้ำหนักเกินจนเกิดโรคอ้วนลงพุง ดังนั้น เพื่อควบคุมป้องกันการเกิดโรค ประชาชนควรตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองโดยเริ่มต้นจากการควบคุมและการเลือกบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์และเหมาะสม เพื่อลดปัจจัยเสี่ยง ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีห่างไกลจากการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด



พญ.วิพรรณ สังคหะพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวว่า ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนลงพุง เป็นหนึ่งในสาเหตุที่สำคัญของโรคดังกล่าว เกิดจากการมีไขมันสะสมในช่องท้องหรืออวัยวะภายในช่องท้องมากเกินควร ส่งผลให้พุงยื่นออกมาอย่างชัดเจน 
สามารถเกิดขึ้นได้ใน 

เพศชายที่มีเส้นรอบเอวเกินกว่า 36 นิ้ว หรือ 90 ซม. 
และเพศหญิงที่มีเส้นรอบเอวเกินกว่า 32 นิ้ว หรือ 80 ซม. 

ร่วมกับการมีดัชนีมวลกายเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 18.5-24.9 โดยสามารถคำนวณหาค่า
 ดัชนีมวลกาย = น้ำหนัก (กิโลกรัม) / ส่วนสูง (เมตร) 
หากพบว่าร่างกายของตนเองมีภาวะเสี่ยงดังกล่าว อาจส่งผลต่อการเพิ่มโอกาสเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ 

ดังนั้น ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองเพื่อไม่ให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง สามารถทำได้ด้วยการลดน้ำหนัก โดยออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 3-4 วัน เพื่อควบคุมน้ำหนักตัวและเส้นรอบเอว การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งยังช่วยลดความอ้วน ช่วยในการควบคุมเบาหวานและความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคอื่นๆ เช่น ภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน อีกทั้งการเลือกบริโภคอาหารที่เหมาะสมยังเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงควรเลือกบริโภคอาหารจำพวก ผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืช และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม เพื่อช่วยให้ห่างไกลจากโรคอ้วนลงพุง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

ที่มา mgronline







ร่างกายของเรายังปกติดี ทำไมต้องทานอาหารเสริม?

มาเช็คกันดูว่าเราทานอาหารได้ครบ 5 หมู่หรือยัง ถูกหลักโภชนาการหรือไม่ ในแต่ละมื้อได้สารอาหารครบและในปริมาณเพียงพอต่อร่างกายใช่ไหม 

และเท่าไรถึงจะเรียกว่าเพียงพอ ออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนได้เต็มที่ ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 แก้ว ระบบขับถ่ายก็ปกติดี เพราะหากในการดำเนินชีวิตแต่ละวันแล้วคุณสามารถทำตามสิ่งที่กล่าวมาได้ สุขภาพแข็งแรงไม่เคยป่วยไข้ อาหารเสริมก็ไม่จำเป็นเลย แล้วเมื่อไรละที่ร่างกายจึงต้องการอาหารเสริม

อาหารเสริมที่ดีนั้นจะต้องประกอบด้วยสารอาหารที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับร่างกายนอกเหนือจากอาหารหลัก ซึ่งจะต้องช่วยป้องกันหรือลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคภัยไข้เจ็บ 
แล้วเมื่อไรที่รู้สึกว่าร่างกายควรแก่การดูแล หรือกลัวโรคภัยไข้เจ็บถามหา อยากป้องกันไว้ก่อนด้วยการเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นให้กับร่างกาย อาหารเสริมจึงเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว