ทีมวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเยลของสหรัฐฯ เผยผลการค้นพบล่าสุดในวารสารเนเจอร์ว่า สามารถใช้ยาต้านโรคซึมเศร้า Clorgyline เพื่อลดไขมันสะสมที่หน้าท้องของหนูทดลองอายุมากได้ ซึ่งอาจปูทางไปสู่การประยุกต์ใช้หลักการเดียวกันเพื่อรักษาภาวะอ้วนลงพุงในมนุษย์
ดร. คริสตินา แคมเมล ผู้นำทีมวิจัยอธิบายว่า ได้ติดตามศึกษาเซลล์มาโครฟาจ (Macrophage) ซึ่งเป็นเซลล์ภูมิคุ้มกันร่างกายที่มีบทบาทต่อการเกิดไขมันสะสมที่หน้าท้อง และพบว่าการอักเสบของเซลล์ชนิดนี้อาจเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ไขมันสะสมไม่ถูกเผาผลาญไปโดยง่าย
  • ค้นคำ "ภาวะซึมเศร้า" กูเกิลถามกลับ "คุณป่วยด้วยโรคนี้หรือ"
  • ช่างเสริมสวยอเมริกันช่วยฟื้นฟูจิตใจลูกค้าซึมเศร้า
ทีมวิจัยได้ทดลองสกัดแยกเซลล์มาโครฟาจออกจากเนื้อเยื่อไขมันของหนูทดลอง ทั้งจากกลุ่มหนูที่มีอายุน้อยและที่มีอายุมาก จากนั้นได้วิเคราะห์ดีเอ็นเอของเซลล์ดังกล่าวเปรียบเทียบกัน พบว่าหนูทดลองอายุมากจะมียีนที่กระตุ้นให้เอ็นไซม์ชนิดหนึ่งเข้ายับยั้งสารสื่อประสาท ไม่ให้เซลล์ภูมิคุ้มกันติดต่อสื่อสารกันได้โดยสะดวก จึงทำให้ร่างกายไม่รับรู้ว่ามีไขมันสะสมอยู่ที่หน้าท้องซึ่งสามารถเอาไปเผาผลาญเป็นพลังงานได้
เมื่อทราบถึงกลไกของการเกิดไขมันสะสมเช่นนี้แล้ว ทีมวิจัยจึงได้ทดลองให้ยา Clorgyline ซึ่งเป็นยาต้านโรคซึมเศร้าที่ใช้กันทั่วไปในการรักษาคนไข้ที่มีอาการทางจิตกับหนูทดลอง โดยยานี้จะทำหน้าที่สกัดเอ็นไซม์ที่ขัดขวางสารสื่อประสาทในเซลล์ภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นกลไกเดียวกันกับการรักษาผู้ป่วยซึมเศร้าที่มีสารสื่อประสาทในระดับต่ำนั่นเอง
หลังจากที่หนูทดลองอายุมากได้รับยาดังกล่าว พบว่าสารสื่อประสาท Catecholamine มีระดับเพิ่มสูงขึ้นในร่างกาย และอัตราการเผาผลาญเพิ่มขึ้น โดยร่างกายสามารถกลับไปเผาผลาญไขมันหน้าท้องได้ตามปกติเหมือนหนูที่มีอายุน้อยกว่า
ผลการทดลองนี้อาจปูทางไปสู่การประยุกต์ใช้หลักการเดียวกันเพื่อรักษาภาวะอ้วนลงพุงในมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตาม ทีมผู้วิจัยเตือนว่ายังคงต้องศึกษาต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าวิธีการนี้จะใช้กับมนุษย์ได้ เนื่องจากยาต้านโรคซึมเศร้าตัวนี้ส่งผลต่อความอยากอาหารในแต่ละคนต่างกันไปด้วย

ทีมา : www.bbc.com/thai/international-41458566