สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน เราได้รวบรวมแอปที่ผ่านการใช้จริงมาแชร์ให้ทุกคนได้ดู แค่ชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้วว่า 18 แอปดี๊ดี มีแล้วชีวิตฟรุ้งฟริ้ง  ไม่อยากจะเวิ่นเว้อให้เสียเวลา เพราะเนื้อหาข้างล่างยังอีกยาว ฮ่าๆๆ อะๆ ไปดูกันได้เลยจ้า
1. SKOOTAR
        เป็นอีกแอปที่มีแล้วชีวิตจะสบายขึ้นจริงๆ ใครที่ทำธุรกิจขายส่งของออนไลน์ ยิ้มเลยจ้า มันจะไม่มีอีกแล้วเหตุการณ์ที่เรียกให้พี่วินไปส่งของ แล้วไม่มา มาช้า ส่งผิด คิดแพง บางทีไม่ไปส่งให้เราแต่รับเงินเราไปแล้วด้วยก็มี เหตุการณ์ทั้งหมดเราเคยเจอมาหมดแล้ว เป็นเรื่องจริงที่น้ำตานองหน้า ฮ่าๆๆ    เราว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยิน หรือเคยเรียกใช้บริการของแอปนี้กันมาแล้ว SKOOTAR เนี่ย เป็นบริการแมสเซ็นเจอร์ส่วนตัวบนสมาร์ทโฟนของเราเองจ้า ไม่ว่าจะส่งเอกสาร จ่ายบิล รับเช็ค เดินเรื่องให้ ส่งสินค้า นางทำให้หมด  และราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิด รับประกันคนรับได้ของชัวร์ ไม่มาด่าเราทีหลังด้วย  เราใช้บริการของแอปนี้ให้ส่งเอกสาร วางบิล ส่งของบ้าง  ให้กับลูกค้าที่อยู่แถวกรุงเทพฯ ปริมณฑล สบายใจมาก ไม่ต้องกลัวเอกสารหาย อีกอย่างนึงที่ดีของแอปนี้ คือสามารถเช็คบิลเป็นเดือนได้  หรือใครอาจจะจ่ายผ่านบัตรเครดิต ออนไลน์แบงค์กิ้ง เค้าก็ไม่ว่าไรนะ

2. Uber
        เราเป็นคนชอบใช้บริการรถรับส่งแบบนี้ มากกว่าแท็กซี่นะ เรารู้สึกว่ามันปลอดภัยกว่า เดี๋ยวนี้ผู้โดยสารก็กลัวคนขับ คนขับก็กลัวผู้โดยสารจะปล้น หรือลากไปข่มขื่นงี้  แต่คนขับ Uber คัดมาเป็นอย่างดี คนที่จะมาขับต้องทำประวัติ และผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมด้วย ที่สำคัญเรียกแล้วมารับชัวร์ นอกจากคนขับจะต้องเช็คประวัติแล้ว  รถที่มารับก็ดูดี สะอาด ขับรถอย่างสุภาพ ไม่ทำให้เรามึนหัว บางคันมีน้ำมาบริการเราด้วย  เวลาใช้บริการ ก็เรียกผ่านแอป Uber ได้เลย แค่ระบุตำแหน่งที่อยู่ และตำแหน่งที่จะไป ในแอปจะมีคำนวณค่าบริการคร่าวๆให้ ซึ่งเราสามารถเรียก Uber ได้ตั้งแต่ที่บ้าน ไม่ต้องต่อรถมารอที่ถนนใหญ่ ส่วนค่าบริการเริ่มต้นอยู่ที่ 25 บาท + 1 บาท/นาที (ช่วงรถติด) + 4.5 บาท/ก.ม.  หากอยากจะยกเลิกบริการ ก็อยู่ที่ 45 บาท ซึ่งจะมีบริการ 2 แบบคือ Uber X และUber Black  ซึ่งUber X จะราคาถูกกว่า บางทีอาจจะถูกกว่าแท็กซี่ด้วยซ้ำ
 

3. Booking.com
        เว็บและแอป จองที่พัก โรงแรม อันนี้เราใช้บ่อยมาก เพราะเป็นคนชอบออกไปเที่ยว เราจะเทียบราคากับ agoda แต่บางทีราคาที่พักก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่นะ เพราะส่วนมาก ที่พักใน Booking มันจะไม่ได้รวมภาษีเข้าไปด้วย พอเราดูราคาในแอปจะเห็นว่าราคามันถูกกว่า แต่ดีตรงที่เราสามารถยกเลิกการจองได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม และใครที่ไม่มีบัตรเครดิตก็สามารถจ่ายเงินสดวันที่เข้าพักได้เลย   ทั้ง Booking และ agoda ต้องยอมรับในเรื่องของความสะดวกในการจองที่พัก ไม่ต้องเข้าไปหาในเว็บของโรงแรม ไม่ต้องโทรไปหาให้เหนื่อย จองปุ๊บได้ปั๊บ และก็มีที่พักให้เลือกเยอะด้วย แต่ละที่จะมีรีวิวจากผู้ใช้บริการของโรงแรมที่ทำการจองผ่าน  


 4. Eatigo
        เบื๊อเบื่อที่ไปถึงร้านอาหาร แล้วคนเต็ม ไม่มีโต๊ะว่าง หิวก็หิว อารมณ์นี่เริ่มมาละ แล้วร้านอาหารแสนโปรดปรานก็คนเยอะเหลือเกิน แล้วเราจะไม่ทนอีกต่อไป เราก็ไปควานหาแอปที่จะแก้ปัญหากวนใจนี้ออกไปให้ได้ แล้วก็เจอจ้า แอปพลิเคชัน Eatigo เป็นแอปสำหรับจองร้านอาหาร แค่จองผ่านแอปนี้ แถมโปรโมชันลดราคาสูงสุด 50% ทุกร้านอาหาร แบ่งหมวดหมู่ร้านอาหารไว้อย่างดีงาม หาง่าย แค่นี้ก็ไม่ต้องไปนั่งรอให้จิตใจห่อเหี่ยวอีกแล้ว เดินเข้าร้านสวยๆ ได้เลยBooking

5. Lost it!
        แค่ชื่อก็บอกแล้ว ว่าเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยในการลดน้ำหนักที่ดีสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเราเลย ซึ่งก่อนใช้งานจะมีให้กรอกข้อมูลสุขภาพ น้ำหนัก ส่วนสูง    ซึ่งมันจะคำนวณข้อมูล และบอกคำแนะนำในการควบคุมอาหาร  ว่าสำหรับวันนี้เราควรจะกินอาหารแบบไหนบ้าง ให้พลังงานเท่าไหร่ มีคำแนะนำในการออกกำลังกายและการนอนของเราด้วย เหมือนมีเทรนเนอร์ส่วนตัวเลย อีกทั้งเวลาเราออกกำลังกาย แอปนี้ก็จะสามารถบอกได้ว่าใช้พลังงานไปกี่แคลอรี่แล้ว หรืออาทิตนี้ออกกำลังกายไปกี่ชม. ถ้าถามเราว่าแอปนี้มันช่วยเรื่องการลดน้ำหนักได้ดีมั้ย มันไม่ใช่ยาลดน้ำหนักที่กินเข้าไปปุ๊บแล้วน้ำหนักจะลดเลยใน 1 อาทิตย์อ่ะ มันก็ค่อยเป็นค่อยไป หากเพื่อนคนไหนสามารถทำตามคำแนะนำจากแอปนี้ได้หมด เราเชื่อว่าน้ำหนักต้องลดลงจริงๆ  นอกจากคำแนะนำเรื่องการลดน้ำหนักแล้ว ก็ยังมีในส่วนของสุขภาพอีกด้วยนะ

6. Calorie Counter
        สาวๆ หลายคนกังวลกับน้ำหนักตัวเอง จะกินอะไรก็กลัวจะทำให้อ้วนขึ้น ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เมื่อมีแอปคำนวณแคลอรี่ เช็คได้ทุกเมนูที่เรากินเข้าไป  และสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์วัดการเดินอย่าง Jawbone หรือ Fitbit ได้ ผลคำนวณจะออกมาให้เรารู้เลยว่าที่กินไปกับที่เผาผลาญไป เหลืออีกเท่าไหร่ถึงจะสมดุล และหุ่นเฟิร์มอีกครั้ง

7. EchoEnglish
        เมื่อสวย หุ่นดีแล้ว ก็ต้องเก่งด้วยนะจ๊ะ ถึงจะครบสูตร เราพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่หรอกนะ เลยชอบหาแอปที่จะสามารถช่วยเรื่องภาษาได้ แล้ววันนี้ก็เจอแล้วจ้า นั่นคือ แอปพลิเคชัน EchoEnglish ของกระทรวงศึกษาธิการนั่นเอง มีทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน สามารถฝึกได้ครบทุกด้าน แล้วจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของแอปนี้คือมีระบบ feedback การออกเสียงได้ทันทีอีกด้วย (ปลื้มปริ่มส่วนนี้มาก บอกเลย !! )มีทั้งหมด 5 ระดับ คือ Try again, Not bad, Good, Very good, Excellent และ Perfect (100%) ถ้าพูดผิดก็จะรู้ว่าเราพูดผิดคำไหนบ้าง ทำให้สามารถกลับไปฝึกพูดใหม่ได้จนกว่าจะคล่อง  รวบรวมบทเรียนไว้มากกว่า 200 บทเรียน และที่สำคัญฝึกได้ทุกที่ทุกเวลา แอปนี้เค้าดีจริงๆ แถมโหลดฟรีด้วยนะจ๊ะ

8. Google Translate
        ทุกวันนี้ต้องเดินทางต่างประเทศบ๊อยบ่อย (มีความมโนแปบ) แอปนี้เหมาะกับเรามาก หรือใครที่ไปเที่ยวต่างประเทศ ก็โหลดแอปนี้มาเป็นตัวช่วยเราได้ เพราะบางที่เราก็ไม่คุ้นเคยอ่ะนะ หรือประเทศนั้นใช้ภาษาที่เราไม่คุ้นเคย ถ้าเราเจอป้าย หรือข้อความ แค่เปิดแอป Google Translate ไปจ่อที่ข้อความ ป้าย หนังสือ หรือที่ไหนก็ได้ที่มีตัวอักษร ให้คนท้องถิ่นพูดใส่มือถือเราก็ได้ หรือใครขี้เกียจพิมพ์ใช้นิ้วเขียนข้อความได้แบบอิสระเลยค่ะ แล้วแอปนี้จะแปลอัตโนมัติ ซึ่งมีฐานข้อมูลถึง 90 ภาษารอบโลกเลย จะอยู่ที่ไหนก็ไม่หลงแล้วแหละจ้า

9. Google Map
        บอกก่อนเลยว่า เรื่องจำเส้นทางไปที่ต่างๆ เราไม่มีความถนัดเลยสักนิด ไม่เข้าใจว่าทำไมจำไม่ได้ ก็ยังไม่แก่นะ ยังสาวยังสวยอยู่เลย ฮ่าๆ ชมตัวเองทำไม จะเดินทางทีไรก็ต้องมีเพื่อนคู่ใจไปด้วยตลอด นั่นคือ Google Map เหมาะกับเรามากที่สุด Google Map บริการแผนที่ทั่วราชอาณาจักร ไม่ว่าจะไปซอกซอยไหนของประเทศก็ไม่หลงอีกต่อไป พร้อมให้ค้นหาสถานที่สำคัญครบถ้วนทุกแห่ง  ถือว่าเป็นผู้ช่วยชีวิตชั้นดีเมื่อต้องเดินทางด้วยตนเองเลยแหละ
10. Taskworld
        งานที่ยุ่งวุ่นวายอยู่ทุกวัน ทำให้เราประสาทเสียได้เลยนะ แต่ตอนนี้เรามีตัวช่วยสุดพิเศษด้วยแอปบริหารจัดการ เหมาะสำหรับคนทำงานยุคใหม่แบบเรา จากชีวิตการทำงานทีวุ่นวายจะหายไปในพริบตา เพราะ Taskworld จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงาน ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำงาน แถมยังวัดผลและประเมินผลการทำงานของทีมได้อย่างดี ที่สำคัญสามารถคุยกันแบบเรียลไทม์ได้ด้วยนะ การติดต่องานก็จะเร็วขึ้น แอปนี้ไม่ได้มีแค่ภาษาอังกฤษอย่างเดียวนะ แต่ยังมีภาษาไทยด้วย นอกจากนั้นยังมีภาษาอื่นอีก 5 ภาษา ได้แก่  จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน และโปรตุเกส โหลดแล้วจะได้ไม่ต้องหัวปั่นอีกต่อไป
11. Evenote Scannable
        ใครที่ต้องเดินทางบ่อย ไม่ค่อยจะอยู่ติดบ้าน หรือออฟฟิศ แล้วมีเอกสารสำคัญที่ต้องส่งแบบด่วนๆ แค่เปิดแอป Evenote Scannable ก็เปลี่ยนกล้องมือถือให้กลายเป็นสแกนเนอร์ แค่จ่อโทรศัพท์ไว้บนเอกสารหรือนามบัตรที่ต้องสแกน แถมดึงคอนแทคท์จากนามบัตรเข้าไปอยู่ใน Phonebook ให้เลยด้วย สุดยอดมากเจ้าค่ะ
12. K-Mobile Banking
        เงินเดือนออกแต่ละที มีเรื่องให้จ่ายเยอะไปหมดเลยเนอะ เงินเข้าปุ๊บ ต้องโอนออกปั๊บ การเงินคล่องตัวขนาดนี้ แค่มีแอป K-Mobile Banking เรื่องการเงินไม่มีสะดุด โอนง่าย จ่ายคล่อง โดยไม่ต้องออกนอกบ้านให้ผิวโดนแดดร้อนๆ หรือจะเติมเงิน จ่ายบิล ก็ทำได้ จะไปไหนก็อุ่นใจเหมือนพกธนาคารเคลื่อนที่ติดตัวไว้ โหลดแอปนี้ชีวิตจะง่ายขึ้นหลายเท่าเลย แต่ก็มีข้อเสียนิดนึง คือ ถ้าเชื่อม wifi จะไม่สามารถทำธุรกรรมบางอย่างได้ นอกนั้นก็ดีงามทุกอย่างค่ะ
13. Star Chart
        แอปดูดาว ที่ทำให้ค่ำคืนดูฟรุ้งฟริ้ง ยิ่งใครอยู่ต่างจังหวัด ดาวจะเต็มท้องฟ้า แอปนี้ช่วยให้การดูดาวสนุก และมีความหมายเยอะมากๆ ค่ะ นอกจากจะบอกชื่อของดวงดาวต่างๆ ที่ปรากฏบนท้องฟ้าได้แบบเสมือนจริง แถมยังสามารถแสดงภาพของกลุ่มดาวที่ดูสวยงามได้อีกด้วย และสามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกับดวงดาว เช่น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง หรือระยะทางจากโลก เป็นต้น  ยัง มีฟีเจอร์ Time Shift เพื่อดูสภาพท้องฟ้าแบบย้อนเวลา ที่สามารถย้อนกลับไปได้ไกลสุดถึง 10,000 ปี หรือเร่งเวลาไปในอนาคตได้ไกลสุดถึง 10,000 ปี อาจจะฟังดูงง คือเพื่อนๆ ต้องลอง เราชอบมากๆ  แอปนี้ยังสามารถสั่งงานผ่านเสียงได้ด้วยนะ เช่น Fly me to the Moon   มีความพิเศษเยอะมากๆ ใครมีลูกหลานนะ ยิ่งชอบเลย
14. iFlix
        วันหยุดไม่อยากออกไปไหน เราก็นอนดูหนังจากแอป iFlix  นี่แหละ พูดได้เลยว่าเป็นแอปสำหรับคอซีรี่ส์ และหนังตัวจริง เพราะมีให้ดูหลายร้อยเรื่องดูจนตาแฉะไปเลยค่ะงานนี้ ส่วนมากเป็นหนังจากทางฝั่งอเมริกา และเอเชียบ้านเรานี่แหละ และที่สำคัญเป็นหนังและซีรีย์ที่ถูกลิขสิทธิ์ด้วย ดูได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นนะคะ แอปนี้มีการแบ่งหมวดหมู่อย่างชัดเจนไม่ต้องลำบากในการหา ซึ่งจะให้ดูฟรี 30 วัน หลังจากนั้นถ้าใครติดใจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเดือนละ 100 บาท หรือรายปี ปีละ 1,000 บาท ดูได้แบบไม่อั้นเลยนะคะ
15. Thai Showtimes
        วันหยุดไหนอยากไปเดินห้าง ดูหนัง ก็ต้องหาข้อมูลไว้ก่อนเลย จะได้ไม่เสียเวลา อาทิตย์นี้อยากจะไปดูแฟนเดย์บ้างไรบ้าง เดี๋ยวจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง เมื่อก่อนต้องเข้าเว็บของโรงหนังแต่ตอนนี้เราใช้แอป Thai Showtimes เช็ครอบหนังแบบง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องเข้าแอปแต่ละของโรงหนังให้ยุ่งยาก เพราะว่าแอปนี้รวมทุกเครือมาครบ ทั้งเมเจอร์ อีจีวี เอสเอฟ แล้วก็เอเป็กซ์ แล้วสามารถเช็คโลเคชั่นเรา หาโรงหนังใกล้ที่สุดได้ด้วย คอหนังโหลดเก็บเอาไว้เลย

16. Rocket  Alarm
       ถ้าเล่นเกมส์ไม่ผ่าน อย่าหวังว่าจะปิดเสียงนาฬิกาปลุกได้ ซึ่งดีต่อใจคนขี้เซาอย่างเรามาก เพราะถ้าอยากปิดเสียงนาฬิกาปลุกของแอปนี้คือต้องเล่นเกมตามคำสั่งที่ขึ้นมาบนหน้าจอในแต่ละวัน เช่น เขย่าจออย่างคนบ้า แก้โจทย์เลข คิดกันปวดหัวไปเลย หรือยิ้มให้กล้อง แบบสดใส อรุณเบิกฟ้า ใครเจอแบบรับรองเลยว่าตื่นแบบไม่มีอาการสะลึมสะลือแน่นอน
17. JOOX
        เราเป็นคนชอบฟังเพลงมากๆ ไม่ว่าจะนั่งรถ อาบน้ำ ปลูกต้นไม้ หรือวิ่ง จะต้องเปิดเพลงตลอด ฟังเพลงชิลๆ สบายๆ แอปนี้มีครบตั้งแต่เพลงเก่าไปจนถึงเพลงใหม่และไม่แยกสังกัดค่าย มีให้ครบถ้วนจนแทบไม่ต้องไปหาที่อื่นฟังเลยก็ว่าได้ การค้นหาเพลงทำได้ง่ายกดอะไรก็เจอ ทั้งเพลงไทย อินเตอร์ หรือลูกทุ่ง หมอลำก็มี สนุกได้ทุกแนว แถมถูกลิขสิทธ์ด้วย สามารถโหลดมาเก็บไว้ในเครื่อง ฟังได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
18. VSCO Cam
        บรรดาหนุ่มสาวชอบแต่งรูปแนวๆ เชิญทางนี้เลยค่ะ แอปนี้เหมาะมากสำหรับแนวฮิปเตอร์ โดยแต่งสีด้วยฟิลเตอร์อัตโนมัติได้อย่างตรงใจ อัดแน่นด้วยฟิลเตอร์มากมายแต่ละฟิลเตอร์ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป สามารถซื้อฟิลเตอร์เพิ่มเติมได้ เสียเงินซื้อก็ยอมนะจ๊ะ ของดีแบบนี้ แต่ถ้ายังไม่พอก็เลือกปรับได้ง่ายๆ อย่างกับถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มเชียว การถ่ายภาพผ่านแอปนี้จะแตกต่างจากแอปอื่นๆ คือ สามารถแยกจุดวัดแสงกับจุดโฟกัสออกจากกันได้ ใครได้รูปเก๋ๆ แนวๆ ต้องไม่พลาดนะจ๊ะ
cr: สมาชิกหมายเลข 1845767 pantip